
ก้าวให้ทัน "5 เทรนด์ การตลาดดิจิทัล 2022" ปรับตัวได้ ยอดขายปัง
Live Commerce 
การขายสินค้าโดยการ Live ผ่านแพลตฟอร์มสุดฮิตอย่าง Facebook, Instagram และ TikTok กำลังเป็นที่นิยมอย่างมาก เพราะนอกจากแพลตฟอร์มเหล่านี้จะสามารถสร้างคอนเทนต์ แคมเปญ และการรับรู้ได้เป็นอย่างดีแล้ว การ Live ยังทำให้ลูกค้าสามารถพูดคุยโต้ตอบกับผู้ขายได้แบบ Realtime ที่สำคัญเป็นแรงกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้นอีกด้วย
O2O Marketing : Online to Offline 

การขายสินค้าผ่านทางออนไลน์ (Online) ลูกค้าบางรายไม่สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในทันทีเนื่องจากยังไม่เคยเห็นสินค้าจริง การขายสินค้าแบบมีหน้าร้าน (Offline) จึงเป็นการสร้างโอกาสในการขายสินค้า สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ อีกทั้งยังทำให้ธุรกิจของคุณมีช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
การมีช่องทางการขายสินค้าเป็นของตัวเอง ทำให้ผู้ขายสามารถสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าและเก็บฐานข้อมูลลูกค้าได้โดยตรง เพื่อนำไปต่อยอดธุรกิจและกำหนดกลยุทธ์ทางการตลาดของแบรนด์ต่อไปได้ อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากการขายสินค้าผ่านตัวกลาง (E-marketplace)
การชำระเงินออนไลน์ที่สะดวกมากขึ้น 

หากคุณเน้นช่องทางการขายทาง Facebook เป็นหลัก การเลือกใช้ฟีเจอร์ Facebook Pay ก็เป็นตัวช่วยในการปิดการขายได้เร็วขึ้นเช่นกัน เนื่องจากนิสัยลูกค้าที่ชอบซื้อของออนไลน์ ชอบความง่าย และรวดเร็ว อีกทั้งยังมีช่องทางในการชำระเงินที่หลากหลาย และหมดกังวลเรื่องสลิปปลอม เพราะสลิปการโอนเงินจะถูกส่งผ่านระบบอัตโนมัติทันที
AI เข้ามามีบทบาทมากขึ้น 
ระบบอัตโนมัติสุดปังของเหล่านักขายที่พลาดไม่ได้ เช่น โปรแกรม Live ขายสินค้า ที่จะช่วยตั้งแต่ดูดรหัสคอมเมนต์ สร้างออเดอร์ ทักแชทหาลูกค้าอัตโนมัติ ตลอดจนปิดการขาย และแชทบอท (Chatbot) ทำหน้าที่ในส่วนการดูแล เป็นแอดมินตอบแชทลูกค้าแทนเราได้ตลอด 24 ชั่วโมง ดูแลลูกค้าในจำนวนมากพร้อมกันได้อย่างทั่วถึงและรวดเร็ว และที่สำคัญยังสามารถเก็บข้อมูลพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้อีกด้วย และช่องทางสุดฮิตคงหนีไม่พ้น Line OA และ Facebook
_______________________________________
ที่มา : Marketingoops, business.ais, cocktailpro
ติดตามข้อมูลข่าวสารได้ที่