งานวันยางพาราปี’61 อัดแน่นนวัตกรรม-แปรรูปเพิ่มมูลค่า
“บึงกาฬ” จัดใหญ่ “วันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561” ชูโมเดลประชารัฐยางพาราสู่มหกรรมเอ็กซ์โปปี”61 ดันนวัตกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์เปิดประตูสู่อินโดจีน
เมื่อเร็วๆนี้ นายพินิจ จารุสมบัติ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายพิสุทธิ์ บุษยพรรณพงศ์ ผวจ.บึงกาฬ นายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ.บึงกาฬ นายเฉิน หูเชิง ผู้แทนบริษัทรับเบอร์ วัลเล่ย์ ผู้ผลิตเครื่องกรีดยางอัตโนมัติจากประเทศจีน นายกมลดิษฐ สมุทรโคจร รองกรรมการผู้จัดการสาย การตลาด บริษัท คาราบาว กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ และครูสลา คุณวุฒิ กรรมการตัดสินไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) และ น.ส.ปานบัว บุนปาน รองกรรมการผู้จัดการสายการตลาด บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมแถลง จัดงาน “วันยางพาราเเละกาชาดบึงกาฬ 2561” ภายใต้แนวคิด “ศาสตร์พระราชารุ่งเรือง เมืองศูนย์กลางยางพารา เกษตรอินทรีย์ก้าวหน้า เปิดประตูการค้าอินโดจีน”
นายฐากูร กล่าวว่า งานวันยางพาราเเละกาชาดบึงกาฬ 2561 เป็นการจัดงานครั้งที่ 6 แล้ว ผ่านวัฏจักรความรุ่งเรือง และตกต่ำของราคายาง แต่ที่สวนทางกับวัฏจักรราคายาง คือการจัดงานยางพาราที่ยิ่งใหญ่มากขึ้นทุกปี ประสบความสำเร็จอย่างที่ไม่คาดคิดมาก่อน และงานยางพาราจะก้าวเป็นงานระดับประเทศและระหว่างประเทศ ไม่ใช่แค่งานที่มีเพียงความสนุกสนาน แต่เป็นช่องทางในการขยายโอกาสของพี่น้องสวนยาง
ผู้บริหารเครือมติชนกล่าวต่อว่า สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมคือความร่วมมือของประชาชนและหน่วยงานต่างๆ ที่ก่อให้เกิดรายได้และการพึ่งพาตนเอง มีการสนับสนุนการแปรรูปยางพาราในทุกขั้นตอน จะช่วยและเป็นหลักประกันในความเสี่ยงของเกษตรกรลดลง เกิดการผลักดันของเศรษฐกิจและอื่นๆ โดยหวังว่างานยางพาราในครั้งนี้จะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรในดีขึ้นยิ่งเรื่อยไป
ส่วนนายพินิจ กล่าวว่า ยางพาราเป็นสิ่งที่มีคุณค่า และมีความสำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ยางพาราเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ เป็นพืชหลักในการขับเคลื่อนประเทศ และมีผลต่อจีดีพีโดยภาพรวม ราคายางขึ้นอยู่กับราคาโลก และการบริหารจัดการเกี่ยวกับการแปรรูป ทุกรัฐบาลจึงมักนำวัตถุดิบมาแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่า ขณะที่ความต้องการใช้ยางพาราก็มีอยู่สูง โดยไม่ต้องไปลดการกรีดยาง หรือลดต้นยางให้น้อยลง
อดีตรองนายกฯ กล่าวว่า จ.บึงกาฬเป็นพื้นที่สำคัญ และเป็นทางออกของประชาชนในเรื่องของปากท้อง จากเดิมเป็นพื้นที่รกร้างปล่อยทิ้ง ปลูกแต่ข้าวโพด อ้อย ซึ่งไม่ได้ราคา จากนั้น จ.บึงกาฬ หันมาปลูกยางพารากันมากขึ้นตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2531 ปัจจุบันมีต้นยางพาราเกือบ 1 ล้านไร่ นับเป็นปริมาณที่มากพอสมควรต่อการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน
นายพินิจ กล่าวต่อว่า ขณะที่การแปรรูปของยางพาราก็มีความสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การแปรรูปเป็นยางรัดถุง ประเทศอินเดียและจีนรับซื้อไม่อั้น หากผลักดันการแปรรูปให้มากขึ้น ก็เป็นการพัฒนาเศรษฐกิจให้ดีขึ้นเช่นกัน รวมทั้งหมอนยางพาราที่เป็นที่ต้องการของต่างประเทศ มีลู่ทางต่อการเพิ่มมูลค่ายางพารา ดังนั้นชาวสวนยางอย่าขายแค่น้ำยาง ต้องหันมาแปรรูปจึงจะยืนด้วยลำแข้งของตัวเองได้ ขณะที่การสนับสนุนการแปรรูปของ จ.บึงกาฬ ซึ่งโรงงานแปรรูปหลายแห่งก็เกิดจากงานวันยางพารา และในปีนี้ได้ยกระดับให้ยิ่งใหญ่มากขึ้นด้วย เพื่อพัฒนายางพาราและพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวสวนยางให้ดีขึ้นด้วย
ขณะที่ นายพิสุทธิ์ ผวจ.บึงกาฬ กล่าวว่า จ.บึงกาฬ ส่งเสริมการเกษตรแบบก้าวหน้า มีสถานท่องเที่ยวธรรมชาติ เป็นแหล่งเชิงนิเวศและแหล่งอารยธรรม และมีพื้นที่ติดกับประเทศลาว และในปี พ.ศ.2562 จะสร้างสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 5 ดังนั้นศักยภาพด้านการเกษตรรวม 1.7 ล้านไร่ เป็นสวนยางพารามากถึง 1.2 ล้านไร่ จึงเห็นได้ชัดว่ายางพาราเป็นพืชหลักที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้แก่ จ.บึงกาฬ
ผวจ.บึงกาฬ กล่าวต่อว่า จ.บึงกาฬเอื้อต่อการค้าระหว่างประเทศ ติดกับประเทศลาว และจีนตอนใต้ด้วย จ.บึงกาฬ จึงมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางภาคอุตสาหกรรมยางพารา โดยจะสนับสนุนตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ถึงปลายน้ำ เน้นการแปรรูปจากหมอนยางพาราไปถึงที่นอนยางพารา มีรายได้ที่ดีกว่า ต่อไปชาวสวนยางต้องไม่ใช่แค่ผู้ผลิต แต่ต้องเรียนรู้การตลาด เรียนรู้นวัตกรรมใหม่ๆ ยกระดับเป็นงานเอ็กซ์โปในระดับประเทศด้วย
ด้าน นายนิพนธ์ นายก อบจ.บึงกาฬ กล่าวว่า รัฐให้งบประมาณ 193 ล้านบาท สนับสนุนโรงงานแปรรูปยางพารา 6 แห่ง จะเป็นการพัฒนาการแปรรูปยางพารา เพื่อเพิ่มมูลค่า ไม่ใช่ขายแค่ยางก้นถ้วย ขณะเดียวกันสวนยางต้องยกระดับความรู้ความสามารถในการเพิ่มมูลค่าของยางพาราในทุกวิถีทาง ยังมีหนทางอีกมากที่จะสร้างรายได้ให้แก่ชาวสวนยาง
นายเฉิน หูเชิง ผู้แทนบริษัทรับเบอร์ วัลเล่ย์ ผู้ผลิตเครื่องกรีดยางอัตโนมัติจากประเทศจีน ร่วมกล่าวว่าหมอนยางพาราเป็นที่ต้องการของคนจีนค่อนข้างมาก งานยางพาราจะเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพราะเป็นงานของภาคประชาชน ไม่ใช่นายทุน ทางการจีนจึงมีความสนใจร่วมลงทุน และสนับสนุนเกี่ยวกับยางพารา จะมีนวัตกรรมใหม่ๆ จากจีน มีระบบโลจิสติกส์จากจีนที่จะสนับสนุนด้านการตลาด นับเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่ดี
ด้านครูเทียม ชุติเดช ทองอยู่ กล่าวถึงการประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 ว่า นับเป็นปรากฏการณ์ใหม่ในเวทีการประกวดลูกทุ่ง เพราะหลายที่อยากจัด แต่ยังไม่เกิดขึ้นในประเทศไทย งานยางพาราครั้งนี้เป็นการยกระดับให้เป็นการประกวดที่ยิ่งใหญ่ในระดับภูมิภาค โดยแชมป์จากทุกภูมิภาคจะมาร่วมชิงแชมป์ชนะเลิศ มีโรงเรียนปักธงชัยประชานิรมิต จ.นครราชสีมา โรงเรียนเทพมิตรศึกษา จ.สุราษฎร์ธานี โรงเรียนจ่านกร้อง จ.พิษณุโลก และโรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม จ.นนทบุรี ร่วมชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมรางวัลเงินสดรวมกว่า 500,000 บาท นอกจากนี้ยังมีการแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินระดับประเทศ อาทิ แฟ้บ บุญมา, ตั๊กแตน ชลดา, แซ็ค ชุมแพ, ศิริพร อำไพพงษ์, แจ๊ส สปุ๊กนิค และปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก อีกด้วย
ขณะที่ ครูสลา คุณวุฒิ กล่าวว่างานประกวดไทยแลนด์ลูกทุ่งคอนเทสต์ 2018 จะให้แรงบันดาลใจเด็กๆ เป็นการเปิดพื้นที่ให้เด็กได้แสดงออกที่นับเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ มีความงดงามในความรู้สึก สิ่งสำคัญของงานวันยางพารา คือบอกให้สังคมรู้ถึงความเป็นเรา จุดประกายในเชิงบวกว่ายางพารายังมีความหวังในภาคการเกษตร และการท่องเที่ยวในคราวเดียว และบทเพลง “ครั้งหนึ่งที่บึงกาฬ” ได้ถูกร้อยเรียงเป็นบทเพลงทำให้ทุกคนรู้จักและรักบึงกาฬ
สำหรับการจัดงานวันยางพาราและกาชาดบึงกาฬ 2561 ปีนี้ มีความยิ่งใหญ่กว่าทุกปี จัดโซนแสดงงาน อาทิ โซนบึงกาฬเทิดพระเกียรติ ประดับไฟเฉลิมพระเกียรติอย่างอลังการ โซนนิทรรศการ “เย็นศิระเพราะพระบริบาล” พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โซนทันโลกนวัตกรรม ยางพารา 4.0 จัดแสดงนิทรรศการ “ยางสร้างสุข” และนวัตกรรมยางพาราจากหน่วยงานระดับประเทศ อาทิ การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ หรือเอ็มเท็ก และกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ ยังมี “ถนนเรืองแสง” จากยางพารา โดยมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ถือเป็นครั้งแรกในประเทศไทย และนวัตกรรม “มีดกรีดยาง นกเงือก” ในส่วนของการแข่งขันลับมีดกรีดยาง มีรางวัลสูงสุดนับแสนบาทอีกด้วย มีภาพคอลลาจ “บึงกาฬ” บนเฟรมขนาดยักษ์ มีโซนบึงกาฬเมืองก้าวหน้า
โซนอบรมอาชีพนำเสนอการฝึกอบรมการทำอาหารจานเด็ดกว่า 12 หลักสูตร โดยเชฟดัง อาทิ เชฟจารึก ศรีอรุณ อาจารย์ประจำหลัก สูตรอุตสาหกรรมอาหารและการบริการ และผู้เชี่ยวชาญด้านอาหาร ศูนย์ปฏิบัติการอาหารนานาชาติ ม.สวนดุสิต, จกโต๊ะเดียว เชฟชื่อดังระดับโลกย่านเยาวราช, อาจารย์พะเยาว์ กฤษแก้ว กูรูขนมหวานชั้นแนวหน้าของไทย เป็นต้น
โซนนิทรรศการ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์” และเวทีเสวนาปราชญ์ชาวบ้าน โดยเฉพาะนิทรรศการ “สู่ฟ้าเสวยสวรรค์” นำเสนอ 19 ความมหัศจรรย์ของพระเมรุมาศ องค์ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุครัตนโกสินทร์ พร้อมตัวอย่างงานศิลปกรรมการสร้างพระเมรุมาศมาจัดแสดง โดยเชิญ ดร.เกรียงไกร เกิดศิริ รองคณบดีฝ่ายวิชาการ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ ม.ศิลปากร และนายสมชาย บุญประเสริฐ ช่างปูนปั้นสดเมืองเพชรบุรี ผู้ควบคุมงานปั้นประติมากรรมสัตว์หิมพานต์ งานพระเมรุมาศรัชกาลที่ 9 มาเสวนาพิเศษ และมีเวทีเสวนาปราชญ์ชาวบ้าน มุ่งเน้นการถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรที่น่าสนใจให้แก่ชาวสวนยาง
16
ม.ค.
2018